จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของสโมสร

เทคโอเวอร์แมนยู การเทกโอเวอร์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่สุดของสโมสร

ถ้าเลือกถูกต้อง ทีมอาจรุ่งเรืองขึ้น ชีวิตดีขึ้น แต่ถ้าเลือกผิดก็อาจต้องเจ็บปวดเหมือนอย่างตอนมีตระกูลเกลเซอร์เป็นเจ้าของ ณ เวลานี้

ในทีมฟุตบอลอาชีพนั้น เจ้าของทีม คือตัวแปรสำคัญที่สุด เพราะ “เป็นคนจ่ายเงิน” การจะจ้างผู้จัดการทีม จ้างนักเตะ สร้างระบบหลังบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่าง มันมีจุดเริ่มต้นจากเจ้าของทีมทั้งสิ้น

เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมในระดับแชมเปี้ยนชิพ เมื่อได้เจ้าของทีมใหม่ คือกลุ่มทุนคิงเพาเวอร์ที่บริหารเป็น ปัจจุบัน พวกเขาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก มีสนามซ้อมแห่งใหม่ ระดับ state-of-art และทีมฟุตบอลก็ยืนหยัดในลีกสูงสุดได้อย่างสง่างาม

แต่ถ้าคุณได้เจ้าของทีมที่ไม่จริงใจ อย่างไมค์ แอชลีย์ ที่ซื้อนิวคาสเซิลมาเพื่อประดับบารมี และเพื่อช่วยผลักดันยอดขายบริษัท Sportdirect ของตัวเอง ทีมฟุตบอลก็จะค่อยๆ จมดิ่งเรื่อยๆ และหาความสำเร็จไม่ได้เลย

เทคโอเวอร์แมนยู

แคนดิเดทเจ้าของทีมใหม่ของแมนยู

[ แคนดิเดท เบอร์ 1 – ทุนจากกาตาร์ ]

ยาสซิม บิน ฮาหมัด วัย 41 ปี คือเชื้อพระวงศ์ของประเทศกาตาร์ เขาเป็นแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งแต่ 10 ขวบ เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์ ที่อังกฤษ

ปัจจุบันเป็นประธานธนาคาร QIB หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในกาตาร์ และเป็นบอร์ดในหลายๆ กองทุนที่กาตาร์ มีคอนเน็กชั่นกับคนในแวดวงระดับสูงมากมาย

[ แคนดิเดท เบอร์ 2 – เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ ]

เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ วัย 70 ปี เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในสหราชอาณาจักร ด้วยสินทรัพย์ 13,000 ล้านปอนด์ เขาเป็นเจ้าของบริษัทชื่อ Ineos ธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก

เซอร์จิม เกิดที่เกรตเตอร์ แมนเชสเตอร์ และเป็นแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตั้งแต่เด็ก เขาเป็นไอคอนที่คนอังกฤษประทับใจ ในแง่ว่าสร้างความร่ำรวยขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง

สถานการณ์ล่าสุดของแมนยู

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกตระกูลเกลเซอร์ นักธุรกิจจากสหรัฐอเมริกาเทกโอเวอร์ ในปี 2005 ตอนแรกแฟนบอลก็คิดว่าสโมสรอาจจะดีขึ้น แต่กลายเป็นว่า เกลเซอร์บริหารทีมได้อย่างสะเปะสะปะ ไร้ทิศทาง ไม่เข้าใจเกมฟุตบอลอย่างดีพอ คิดถึงธุรกิจเป็นหลักก่อนผลการแข่งขัน

ช่วงแรกๆ ตอนมีเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอยู่ ก็ยังพอประคองไปได้ แต่พอเฟอร์กี้รีไทร์ ทุกคนก็ได้เห็นว่า ตระกูลเกลเซอร์บริหารไม่ได้เลย พวกเขามีเงินเยอะก็จริง แต่ใช้เงินได้ละลายแม่น้ำอย่างมาก

ยิ่งใช้เงินเยอะ แต่ทีมกลับยิ่งตกต่ำลง เหมือนไม่เข้าใจว่าความหวังสูงสุดของแฟนปีศาจแดงคือได้แชมป์ ไม่ใช่การเป็นทีมที่รวยที่สุด จนแมนฯ ยูไนเต็ด ค่อยๆ โดนคู่แข่งในลีก โดยเฉพาะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ

นอกจากจะบริหารทีมไม่ดีแล้ว ตระกูลเกลเซอร์ ยังไม่เข้าใจวัฒนธรรมของฟุตบอลอังกฤษ พวกเขาสนับสนุนไอเดีย Super League และพร้อมจะแยกตัวออกจากยูฟ่า ยอมโละทิ้งประวัติศาสตร์แชมป์ยุโรปอันยิ่งใหญ่ ของเซอร์แมตต์ บัสบี้ และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อย่างไม่ไยดี

ความไม่พอใจของชาวปีศาจแดง

เหตุผลทุกๆ อย่างรวมกัน ทำให้แฟนบอลปีศาจแดงประท้วงอย่างหนัก เพื่อกดดันให้ตระกูลเกลเซอร์ขายทีมซะที

ตระกูลเกลเซอร์โดนด่าอยู่นาน ถึงจุดหนึ่งก็ตัดสินใจว่า “พอแล้ว” รีบๆ ขาย เอากำไร แล้วเอาเงินไปลงทุนธุรกิจอย่างอื่น ดีกว่าอยู่แมนฯ ยูไนเต็ดต่อ แล้วมีแต่คนเกลียด

สำหรับตัวเลขว่าจะขายเท่าไหร่นั้น ตอนเกลเซอร์ซื้อแมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2005 พวกเขาจ่ายเงินไปทั้งสิ้น 790 ล้านปอนด์ ผ่านมา 18 ปี ตอนนี้ปี 2023 มูลค่าของแมนฯ ยูไนเต็ด สูงขึ้นเยอะ ตัวเลขขั้นต่ำถ้าจะซื้อกันตอนนี้ จะไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านปอนด์

ตัวเลข 4,000 ล้านปอนด์ คิดเป็นเงินไทยคือ 165,000 ล้านบาท ถามว่าราคาแพงไหม? คำตอบคือ แพงมาก แต่ถึงกระนั้นก็มีผู้สนใจ อยากได้เยอะ เพราะแบรนด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถนำไปต่อยอด และสร้างรายได้มากกว่านี้ในอนาคต

ทีมปีศาจแดงมีแฟนบอลหนาแน่น มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีสนามแข่งระดับโลก มีทุกอย่างที่ทีมกีฬาสักทีมควรจะมี ทุกอย่างเพอร์เฟ็กต์หมด

ด้วยความที่คนต้องการซื้อมีเยอะ ตระกูลเกลเซอร์จึงแต่งตั้งบริษัทชื่อ Raine Group ผู้ชำนาญเรื่องการซื้อ-ขายธุรกิจ ให้เข้ามาดูแลในการเทกโอเวอร์ครั้งนี้ หลายคนน่าจะจำกันได้ นี่คือบริษัทที่ซื้อขายเชลซีได้ลุล่วงในปีที่แล้วนั่นเอง

ในเคสของทีมปีศาจแดงนั้น Raine Group วางเดดไลน์เอาไว้ว่า ใครที่อยากซื้อแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องแจ้งเจตจำนง ภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2023 เวลา 22.00 น. ว่าจะเอาจริง พร้อมโชว์หลักฐานที่มาของเงินให้ชัดเจน

เทคโอเวอร์แมนยู

สถิติการเทกโอเวอร์ทีมกีฬาที่แพงที่สุดในโลก

สำหรับสถิติ เรื่องราคาการเทกโอเวอร์ทีมกีฬา ที่แพงที่สุดในโลกนี้ คือ ร็อบ วอลตัน ทายาทวอลมาร์ท ซื้อทีม NFL เดนเวอร์ บรองโกส์ ในปี 2022 ด้วยราคา 3,750 ล้านปอนด์ ส่วนถ้านับเฉพาะฟุตบอล สถิติสูงสุดคือ ท็อดด์ โบห์ลี่ ซื้อเชลซีจากโรมัน อบราโมวิช ในปีที่แล้วเช่นกัน ด้วยราคา 3,600 ล้านปอนด์

สิ่งที่ตระกูลเกลเซอร์ต้องการคือ “สร้างสถิติโลกใหม่” คนที่ยื่นมา ต้องจ่ายแพงกว่าดีลของเดนเวอร์ บรองโกส์

โดยหนังสือพิมพ์เดลี่ เอ็กซ์เพรสส์ ระบุว่า ตระกูลเกลเซอร์ต้องการได้เงิน 6,000 ล้านปอนด์ แต่ในข้อเท็จจริงเชื่อว่ายาก

ตัวเลขที่สื่ออังกฤษคาดการณ์ เชื่อว่าจะอยู่ที่ 4,000 – 5,000 ล้านปอนด์เท่านั้น อาจจะไม่ถึงเลขที่เกลเซอร์อยากได้ แต่ก็จะทำลายสถิติโลกแน่นอน

หลังจากวันเดดไลน์มาถึง บทสรุปคือ มี “3 องค์กร” ที่ยื่นเจตจำนง ต้องการซื้อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ขั้นตอนจากนี้ Raine Group ร่วมกับเกลเซอร์ ก็ต้องมาพิจารณาว่า ข้อเสนอของใครดีกว่า และ ถ้าข้อเสนอใกล้เคียงกัน ขายให้ใครแล้วจะได้ภาพลักษณ์บวกกับคนขายมากกว่า

ตอนนี้สิ่งที่แฟนแมนฯ ยูไนเต็ด ต้องทำคือ ช่วยสโมสรพิจารณาแคนดิเดทเจ้าของใหม่ ว่าใครคือตัวเลือกที่เหมาะที่สุด ซึ่งแต่ละคนก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน

สรุปข่าวการเทคโอเวอร์แมนยู

บทความนี้ทางเว็บไซต์ www.tryscore.com ได้นำมาจากเพจวิเคราะห์บอลจริงจัง ซึ่งเป็นเพจกีฬาที่มีคุณภาพในด้านของเนื้อหาสาระ ได้นำมาให้ผู้ที่สนใจในกีฬาและชื่นชอบในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มาอ่านกัน

สำหรับผู้ที่ใจในการเดิมพันกีฬา แทงบอล แทงบอลออนไลน์ สมัครแทงบอล หรือมองหาเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีความมั่นคง และได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทย
สามารถสมัครได้ทันทีที่ www.tryscore.com หรือไลน์ไอดี @tryscore ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ฝาก – ถอน ไม่มีขั้นต่ำ สมัครใหม่โบนัส 100%